เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.สุธาศินี นรสิงห์ อายุ 55 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท แบล็คไดมอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ เอ็กซ์พลอเรชั่น จำกัด และรองประธานมูลนิธิซีแคร์ เอเซีย ฟาวเดชั่น เข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน กรณีที่นายโรนัลด์ เชน ฟลินน์ อายุ 50 ปี อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.806/2556 ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2556 ข้อหายักยอกทรัพย์ เป็นเงินของบริษัทไปกว่า 21 ล้านบาท และฉ้อโกงประชาชน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้และเกรงว่าจะถูก ผู้ต้องหานำชื่อบริษัทฯ ไปแอบอ้างสร้างความเสียหายต่อผู้อื่น

น.ส.สุธาศินี กล่าวว่า เมื่อหลายปีก่อนมีเพื่อนชาวต่างชาติที่รู้จักกันได้พานายโรนัลด์ มาขอความช่วยเหลือเรื่องคดีความ ซึ่งเขาอ้างว่าถูกหลอกเงินไป แต่เมื่อไปแจ้งความดำเนินคดีกลับไม่สามารถนำหลักฐานมาแสดงได้ อย่างไรก็ตาม ตนกับนายโรนัลด์ ยังติดต่อกันเรื่อยมา โดยนายโรนัลด์ ได้อาสาว่าจะช่วยเหลือในเรื่องการระดมทุนให้กับบริษัทฯ และมูลนิธิฯ ซึ่งในช่วงนั้นก็กำลังต้องการเงินทุนมาดำเนินกิจกรรมพอดี จึงให้นายโรนัลด์ เข้ามาเป็นกรรมการและหุ้นส่วน แต่ทางกรรมการบริษัทฯ ยังไม่มีมติให้นายโรนัลด์ เป็นผู้ดำเนินการอย่างเป็นทางการ

น.ส.สุธาศินี กล่าวอีกว่า ต่อมานายโรนัลด์ ได้ร่วมกับพวก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์ ทำเอกสารปลอม โดยแอบอ้างชื่อบริษัทเกี่ยวกับการระดมทุนเพื่อขุดเจาะน้ำมันในที่ดิน จ.สุโขทัย มีการชักชวนให้ผู้สนใจร่วมลงทุน อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนดี ทำให้มีนักธุรกิจชาวต่างชาติ ทั้งสหรัฐอเมริกา สวีเดน นอร์เวย์ และออสเตรเลีย หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทฯ จำนวนมาก จากนั้นนายโรนัลด์ ได้ปลอมลายมือชื่อตน ไปถอนเงินจากบัญชีธนาคารดังกล่าว ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลายครั้ง รวมเป็นเงิน 21 ล้านบาท เมื่อทราบเรื่องแล้วจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา ก่อนมีการขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับเอาไว้

ทั้งนี้ หลังจากศาลอนุมัติหมายจับ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจและสถานทูต ให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหา แต่ก็ยังไม่มีเบาะแสของผู้ต้องหารายนี้ เนื่องจากมีการเดินทางไปมาระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ อยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ยังทราบว่าลูกน้องของนายโรนัลด์ ซึ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์ มีความชำนาญด้านคอมพิวเตอร์ จึงอาจใช้วิธีการที่เคยทำไปสร้างความเสียหายต่อบริษัทฯ และผู้อื่น

แหล่งข่าวจาก posttoday…